สุดเศร้า ผัวถูกโจรฆ่า! เมียเครียดผูกคอตายตามไปอีกคน
เกิดเหตุสุดทะเทือนใจที่นครศรีธรรมราช พ่อค้ารับซื้อยางถูกโจรปล้น ใช้ปืนจ่อยิงหัวตายต่อหน้าเมีย ทำให้เครียดจัดจนเป็นลมล้มพับในงานศพ ญาตินำส่ง รพ. หนีไปผูกคอในห้องน้ำ ช่วยยื้อชีวิตได้ไม่นาน เผาศพผัวเสร็จ เมียก็สิ้นใจตายตาม...
จากเหตุการณ์คนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ บุกฆ่าชิงทรัพย์ นายจำเริญ เมืองจันทร์ อายุ 52 ปี พ่อค้ารับซื้อยางพารา ตายคาบ้านเลขที่ 35/1 บ้านคลองไทร หมู่ 2 ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เมื่อคืนวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา เหตุเกิดต่อหน้า นางรัชนี เมืองจันทร์ อายุ 48 ปี เมียที่ถูกคนร้ายบังคับให้เอาทรัพย์สินเงินสด 5,000 บาท และสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น แล้วใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นจ่อยิงหัวนายจำเริญ จนสมองกระจุยตายคาที่
ทั้งนี้ เหตุสะเทือนใจที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ทำให้ต่อมานางรัชนีซึ่งเครียดจัด ได้เป็นลมคางานศพของสามี เมื่อคืนวันที่ 24 พ.ค. ญาติๆ จึงรีบนำส่ง รพ.สิชล แต่นางรัชนีกลับแอบไปผูกคอตายในห้องน้ำของ รพ.สิชล เมื่อเช้าวันที่ 25 พ.ค. แม้ว่าญาติและเจ้าหน้าที่จะเข้าช่วยเหลือได้ทัน แต่อาการสาหัส ถูกนำเข้าห้องไอซียู
ปรากฏว่า ล่าสุด เมื่อบ่ายวันที่ 26 พ.ค. หลังจากเสร็จพิธีฌาปนกิจศพ นายจำเริญ เมืองจันทร์ สามี ที่วัดธารน้ำฉา หมู่ 3 ต.เทพราช อ.สิชล แล้ว ปรากฏว่านางรัชนี ซึ่งรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู รพ.สิชล ได้สิ้นใจตายตามสามีไปอีกคน ท่ามกลางความเสียใจของบรรดาญาติ และลูกๆ ของทั้งสอง ที่ทั้งสามีและภรรยาต้องมาเสียชีวิตตามกันไป
ต่อมาวันที่ 27 พ.ค. ญาติๆ ได้นำศพนางรัชนี เมืองจันทร์ ไปตั้งบำเพ็ญกุศล ต่อจากศพสามีที่บ้านพักเลขที่ 35/1 หมู่ 2 ต.ฉลอง อ.สิชล โดยญาติมิตรคนรู้จักเพื่อนบ้าน ต้องเดินไปร่วมงานศพนางรัชนีอีก หลังจากเผาศพสามีไม่ทันข้ามวัน
สิบเอกวัชระ เมืองจันทร์ อายุ 27 ปี ทหารสังกัดกรมการขนส่งทหารบก กรุงเทพฯ ลูกชายของผู้ตายทั้งสอง ได้กล่าววิงวอนไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิชล ให้รีบจับคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ และฝากถึงผู้บังคับบัญชา ขอให้ช่วยย้าย สิบตรีปิยณัฐ เมืองจันทร์ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นน้องชาย ปัจจุบันรับราชการทหารอยู่ที่กองพันทหารขนส่งที่ 24 ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มาทำงานที่เดียวกับตน คือที่กรมการขนส่งทหารบก เนื่องจากเป็นห่วงน้องชายที่อายุยังน้อย อยากจะให้ไปอยู่ด้วยกัน จะได้คอยเป็นกำลังใจให้กัน เพราะพ่อแม่ตายหมดแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.สิชล เผยความคืบหน้าของคดี ว่า ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน เข้าค้นบ้านผู้ต้องสงสัย 2 ราย ใกล้กับบ้านที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งผู้ที่เป็นพยานปากเอก คือเมียของผู้ตาย ก็มาผูกคอตายและเสียชีวิตไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจจะเร่งรัดในการดำเนินคดี เพื่อเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชนเป็นอย่างมาก.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์

จากเหตุการณ์คนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ บุกฆ่าชิงทรัพย์ นายจำเริญ เมืองจันทร์ อายุ 52 ปี พ่อค้ารับซื้อยางพารา ตายคาบ้านเลขที่ 35/1 บ้านคลองไทร หมู่ 2 ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เมื่อคืนวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา เหตุเกิดต่อหน้า นางรัชนี เมืองจันทร์ อายุ 48 ปี เมียที่ถูกคนร้ายบังคับให้เอาทรัพย์สินเงินสด 5,000 บาท และสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น แล้วใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นจ่อยิงหัวนายจำเริญ จนสมองกระจุยตายคาที่
ทั้งนี้ เหตุสะเทือนใจที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ทำให้ต่อมานางรัชนีซึ่งเครียดจัด ได้เป็นลมคางานศพของสามี เมื่อคืนวันที่ 24 พ.ค. ญาติๆ จึงรีบนำส่ง รพ.สิชล แต่นางรัชนีกลับแอบไปผูกคอตายในห้องน้ำของ รพ.สิชล เมื่อเช้าวันที่ 25 พ.ค. แม้ว่าญาติและเจ้าหน้าที่จะเข้าช่วยเหลือได้ทัน แต่อาการสาหัส ถูกนำเข้าห้องไอซียู
ปรากฏว่า ล่าสุด เมื่อบ่ายวันที่ 26 พ.ค. หลังจากเสร็จพิธีฌาปนกิจศพ นายจำเริญ เมืองจันทร์ สามี ที่วัดธารน้ำฉา หมู่ 3 ต.เทพราช อ.สิชล แล้ว ปรากฏว่านางรัชนี ซึ่งรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู รพ.สิชล ได้สิ้นใจตายตามสามีไปอีกคน ท่ามกลางความเสียใจของบรรดาญาติ และลูกๆ ของทั้งสอง ที่ทั้งสามีและภรรยาต้องมาเสียชีวิตตามกันไป
ต่อมาวันที่ 27 พ.ค. ญาติๆ ได้นำศพนางรัชนี เมืองจันทร์ ไปตั้งบำเพ็ญกุศล ต่อจากศพสามีที่บ้านพักเลขที่ 35/1 หมู่ 2 ต.ฉลอง อ.สิชล โดยญาติมิตรคนรู้จักเพื่อนบ้าน ต้องเดินไปร่วมงานศพนางรัชนีอีก หลังจากเผาศพสามีไม่ทันข้ามวัน
สิบเอกวัชระ เมืองจันทร์ อายุ 27 ปี ทหารสังกัดกรมการขนส่งทหารบก กรุงเทพฯ ลูกชายของผู้ตายทั้งสอง ได้กล่าววิงวอนไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิชล ให้รีบจับคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ และฝากถึงผู้บังคับบัญชา ขอให้ช่วยย้าย สิบตรีปิยณัฐ เมืองจันทร์ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นน้องชาย ปัจจุบันรับราชการทหารอยู่ที่กองพันทหารขนส่งที่ 24 ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มาทำงานที่เดียวกับตน คือที่กรมการขนส่งทหารบก เนื่องจากเป็นห่วงน้องชายที่อายุยังน้อย อยากจะให้ไปอยู่ด้วยกัน จะได้คอยเป็นกำลังใจให้กัน เพราะพ่อแม่ตายหมดแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.สิชล เผยความคืบหน้าของคดี ว่า ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน เข้าค้นบ้านผู้ต้องสงสัย 2 ราย ใกล้กับบ้านที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งผู้ที่เป็นพยานปากเอก คือเมียของผู้ตาย ก็มาผูกคอตายและเสียชีวิตไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจจะเร่งรัดในการดำเนินคดี เพื่อเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชนเป็นอย่างมาก.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์