เปิดพินัยกรรม หลวงพ่อคูณ บริจาคร่างให้แพทย์ มข. หลังละสังขาร

เปิดพินัยกรรม หลวงพ่อคูณ บริจาคศพให้คณะแพทย์ ม.ขอนแก่น ภายใน 24 ชม. หลังจากละสังขาร ให้เป็นอาจารย์ใหญ่ นศ.แพทย์ ก่อนนำมาฌาปนกิจแบบเรียบง่ายที่วัดหนองแวง เมืองขอนแก่น ห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ ให้นำอัฐิ อังคาร ลอยแม่น้ำโขง...
เปิดพินัยกรรม พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ลงวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2543 ก่อนมรณภาพ หลังเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยอาการหัวใจหยุดเต้น หลังตื่นนอนในห้องปลอดเชื้อวัดบ้านไร่ กระทั่งอาการทรุดลงเป็นลำดับ และมรณภาพลงเมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 16 พ.ค. 2558 ท่ามกลางความโศกเศร้าของคณะแพทย์ที่ทำการรักษาและบรรดาลูกศิษย์ที่ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ขณะที่หลวงพ่อทำพินัยกรรม ได้มีพยานรับรอง 4 คน คือ รศ.สุขชาติ เกิดผล รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นายประทีป วงษ์กาญจนรัตน์ นายธวัช เรืองหร่าย ไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ และนายเนาวรัตน์ สังการกำแหง นิติกร 8 (ชำนาญการ) มหาวิทยาลัยขอนแก่น
สำหรับเนื้อหาสำคัญ มีดังนี้ อาตมาหลวงพ่อคูณ อายุ 77 ปี ในขณะนั้น มีถิ่นพำนักวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ลงวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2543 ขอทำพินัยกรรมกำหนดการ เผื่อถึงการมรณภาพ เกี่ยวกับเรื่องการจัดงานศพของอาตมา ภายหลังที่อาตมาถึงมรณภาพลง
1.ศพของอาตมา ให้มอบแก่มหาวิทยาลัยขอนแก่นภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากละสังขาร เพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น มอบให้กับภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปศึกษาค้นคว้าตามวัตถุประสงค์ของภาคต่อไป
2.พิธีกรรมศาสนา การสวดอภิธรรมศพ ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ที่คณะแพทยศาสตร์ 7 วัน
3.การจัดทำพิธีบำเพ็ญกุศล เมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้ว ให้จัดงานแบบเรียบง่าย ละเว้นการพิธีสมโภชน์ใดๆ และห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ โกฏิ และพระราชพิธีอื่นๆ เป็นกรณีพิเศษเป็นการเฉพาะ โดยให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทำพิธีเช่นเดียวกับการจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่นักศึกษาแพทย์ประจำปี ร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่น แล้วเผา ณ ฌาปนสถานวัดหนองแวง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หรือวัดอื่น
4.เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว อัฐิ เถ้าถ่าน และเศษอังคารทั้งหมด ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปลอยที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์