เตือน!! "เอลนีโญ" ครั้งแรกในรอบ 5 ปี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่อแล้งหนัก!!!

นักวิทย์เผย ปรากฏการณ์เอลนีโญกลับมาครั้งแรกในรอบ 5 ปี ส่อกระทบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้งหนัก สหรัฐโดนพายุอ่วม
วันนี้ (13 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย เผยถึง ความรุนแรงของปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่มีการคาดกันมาตั้งแต่ปี 2557 ว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ บริเวณแนวเส้นศูนย์สูตรของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งแม้จะไม่รุนแรงถึงที่สุดตามที่คาดไว้ แต่ก็ส่งผลกระทบรุนแรงมากในระดับหนึ่ง
ขณะเดียวกัน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ก็เป็นอีกองค์กรที่ออกมากล่าวในทำนองเดียวกันว่า ปรากฏการณ์เอลนีโยเริ่มเกิดขึ้นแล้วและจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงช่วงปลายปี 2558
ด้าน นายเดวิด โจนส์ แห่งสำนักงานบริการข้อมูลด้านสภาพอากาศ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบรูปแบบการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญครั้งนี้ พบว่ามีระดับความรุนแรงในระดับกลางถึงสูง โดยปรากฏการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นตามปกติของวงจรการเกิด และแตกต่างจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ความรุนแรงระดับต่ำที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2557
ทั้งนี้ เอลนีโญ เป็นปรากฏการณ์ที่นำพาซึ่งความแห้งแล้งมาสู่ประเทศออสเตรเลีย ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาคการเกษตรและตลาดสินค้าเกษตรทั่วโลก ทั้งยังส่งผลต่อเนื่องต่อระบบเศรษฐกิจที่พึ่งพาการผลิตผลิตผลบนพื้นดิน เมื่อ 5 ปีที่แล้วเคยเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญระดับรุนแรง ส่งผลให้เกิดมรสุมรุนแรงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้งในออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์และเอกวาดอร์ ขณะที่สหรัฐอเมริกาก็ต้องเผชิญกับพายุฝนฟ้าคะนอง ด้านบราซิลต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรง และเม็กซิโกเกิดน้ำท่วมฉับพลันที่คร่าชีวิตประชาชนเป็นจำนวนมาก
โดยปรากฏการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อลมสำเภาที่เคลื่อนตัวเหนือพื้นน้ำในบริเวณเส้นศูนย์สูตรมหาสมุทรแปซิฟิกเริ่มอ่อนกำลังลงขณะที่อุณหภูมิพื้นผิวทะเลเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ทางการสหรัฐอเมริกาประกาศว่าเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญขึ้นมาแล้วแต่อยู่ในระดับไม่รุนแรง แต่นักวิทยาศาสตร์ออสเตรเลียออกมาโต้ว่า จากการตรวจสอบรูปแบบการเกิดปรากฏการณ์ พบว่ามีความรุนแรงและจะส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศโลกอย่างชัดเจนตั้งแต่เดือนก.ย.เป็นต้นไป
ซึ่งรูปแบบการเกิดเอลนีโญในลักษณะนี้ จะทำให้เกิดภาวะแห้งแล้งมากขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย ปาปัวนิวกินี และพื้นที่หลายส่วนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนี้ ในรูปแบบการเกิดเอลนีโญลักษณะเดียวกันในอดีต ยังทำให้เกิดภาวะฝนตกหนักผิดปกติบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก และอเมริกาใต้ ทำให้เกิดน้ำท่วมแผ่นดินถล่ม ส่วนภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาและแอฟริกาใต้เกิดภาวะแห้งแล้งมากเป็นพิเศษ
ขณะที่ นายนีล พลัมเมอร์ รองผู้อำนวยการสำนักงานบริการข้อมูลด้านสภาพอากาศ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญ ครั้งนี้เกิดขึ้นในออสเตรเลียเร็วกว่าปกติ และนับเป็นปรากฏการณ์เอลนีโญ ครั้งแรกในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่ปี 2553